PIN ขยายพื้นที่นิคม PIN5 เพิ่มอีก 1,155 ไร่ หวังดึงกลุ่มอุตสาหกรรม S-Curve
1 / 1
PIN ประกาศการลงทุนครั้งใหญ่รอบ 3 ปี ขยายพื้นที่นิคม PIN5 เพิ่มอีก 1,155 ไร่ หวังดึงกลุ่มอุตสาหกรรม S-Curve ที่ใช้เทคโนโลยีการผลิตขั้นสูง ปักฐานการผลิตในไทย คาดโครงการแล้วเสร็จภายในไตรมาส 4/2567 หนุนการเติบโตอย่างยั่งยืน บมจ.ปิ่นทอง อินดัสเตรียล ปาร์ค หรือ PIN ประกาศการลงทุนครั้งใหญ่ เดินหน้าขยายพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมปิ่นทอง 5 (PIN5) เพิ่มเติมอีก 1,155 ไร่ รับดีมานด์นักลงทุนต่างชาติกระจายฐานการผลิต ชูแนวคิด Eco Industrial Town พร้อมศักยภาพทำเลที่ตั้งโครงการ ในเขตพื้นที่ EEC รับลูกค้ากลุ่มอุตสาหกรรม S-Curve ที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูงในกลุ่มชิ้นส่วนยานยนต์ อิเล็กทรอนิกส์ เครื่องใช้ไฟฟ้าและ Data Center คาดแล้วเสร็จภายในไตรมาส 4/2567 นายสุจินต์ เรียนวิริยะกิจ กรรมการบริหาร บริษัท ปิ่นทอง อินดัสเตรียล ปาร์ค จำกัด (มหาชน) หรือ PIN เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้เดินหน้าขยายพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมปิ่นทอง 5 (PIN5) อีก 1,155 ไร่ จากเดิมที่มีพื้นที่ทั้งหมด 1,540 ไร่ ภายใต้งบลงทุนประมาณ 2,500 ล้านบาท คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในไตรมาส 4/2567 ส่งผลให้นิคม PIN5 มีพื้นที่โครงการทั้งสิ้น 2,695 ไร่ ที่จะช่วยเพิ่มศักยภาพการดำเนินโครงการนิคมอุตสาหกรรมและขีดความสามารถการแข่งขันของประเทศไทย เพื่อรองรับกับการลงทุนของอุตสาหกรรมเป้าหมาย S-Curve ที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูงในกระบวนการผลิตและอุตสาหกรรมเป้าหมายตามนโยบายเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) เช่น อุตสาหกรรมชิ้นส่วนยานยนต์ อุตสาหกรรมซอฟต์แวร์และอิเล็กทรอนิกส์ เครื่องใช้ไฟฟ้าและชิ้นส่วน และ Data Center ส่งผลดีต่อการดำเนินงานของ PIN ให้เติบโตได้อย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ การพัฒนาพื้นที่ส่วนต่อขยายของ PIN5 อยู่ภายใต้แนวคิด Eco Industrial Town หรือนิคมอุตสาหกรรมเชิงนิเวศที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เป็นแกนหลักการออกแบบวางผังโครงการและบริการระบบสาธารณูปโภคสิ่งอำนวยความสะดวกที่มุ่งเน้นการจัดให้มีพื้นที่สีเขียวและพื้นที่กันชนเชิงนิเวศ (Eco-Belt) รอบพื้นที่โครงการ นอกจากนี้ยังให้ความสำคัญกับการจัดการด้านพลังงาน (Renewable Energy) โดยมีโครงการผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ติดตั้งบนหลังคา (Solar Rooftop) และนโยบายการนำน้ำทิ้งที่ผ่านการบำบัดมาใช้ใหม่ในโครงการ ซึ่งถือเป็นพื้นฐานต่อการส่งเสริมคุณภาพชีวิตและสิ่งแวดล้อมให้แก่แรงงานที่อยู่ภายในโครงการและชุมชนโดยรอบให้อยู่ร่วมกันได้อย่างยั่งยืน พร้อมบริการระบบเคเบิลใยแก้วนำแสงเพื่อยกระดับนิคมอุตสาหกรรมทุกแห่งก้าวสู่การเป็น Smart City เพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการและบริหารจัดการเมืองที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมให้เติบโตอย่างยั่งยืน “การลงทุนครั้งนี้ถือเป็นการลงทุนครั้งใหญ่ในรอบ 3 ปีของ PIN เพื่อขยายพื้นที่โครงการนิคม PIN5 ที่มีความโดดเด่นด้านทำเลที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ EEC รองรับอุตสาหกรรมสมัยใหม่ที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูงในกระบวนการผลิต หรืออุตสาหกรรม S Curve ทำให้ PIN สร้างการเติบโตอย่างมั่นคงและก่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดทั้งในด้านเศรษฐกิจ สังคม และความเป็นอยู่ของชุมชนอย่างยั่งยืน” นายสุจินต์ กล่าว