"ปิ่นทอง อินดัสเตรียล ปาร์ค" ทำกำไรสุทธิ 138 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 229%
1 / 1
บมจ.ปิ่นทอง อินดัสเตรียล ปาร์ค หรือ PIN โชว์ผลการดำเนินงานไตรมาส 1/65 เติบโตก้าวกระโดด ทำกำไรสุทธิ 138 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 229% ระบุยอดขายที่ดินในนิคมอุตสาหกรรมปิ่นทอง 4 และ 5 เพิ่มขึ้น รับสัญญาณเชิงบวกจากสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลายไปในทางที่ดี สร้างความเชื่อมั่นนักลงทุนต่างชาติใช้ไทยเป็นฐานการผลิต พร้อมประเมินทิศทางดำเนินงานทั้งปีมั่นใจเติบโตตามแผน คุณพีระ ปัทมวรกุลชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ปิ่นทอง อินดัสเตรียล ปาร์ค จำกัด (มหาชน) หรือ PIN เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานในไตรมาส 1/2565 (มกราคม-มีนาคม) บริษัทฯ มีรายได้รวม 378 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 142% และมีกำไรสุทธิ 138 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 229% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา ซึ่งมีปัจจัยมาแนวโน้มสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 คลี่คลายไปในทางที่ดีขึ้น และการเปิดประเทศต้อนรับนักท่องเที่ยวอีกครั้ง ส่งผลต่อบรรยากาศการค้าการลงทุนของต่างชาติปรับตัวดีขึ้นตามลำดับ เป็นปัจจัยเชิงบวกต่อการดำเนินงานของบริษัทฯ ทำให้มียอดขายที่ดินในนิคมอุตสาหกรรม PIN 4 และ PIN 5 เพิ่มขึ้นเป็น 73 ไร่ ส่งผลให้ผลการดำเนินงานในไตรมาสนี้ขยายตัวได้อย่างโดดเด่น ขณะที่กลุ่มธุรกิจ Recurring income จากการให้บริการเช่าโรงงานและคลังสินค้าในพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมปิ่นทอง และค่าบริการสาธารณูปโภคภายในโครงการมีทิศทางดีขึ้นเล็กน้อย เชื่อว่าแนวโน้มในช่วงที่เหลือของปีนี้จะสามารถขยายตัวได้ตามแผนจากกิจกรรมการผลิตของลูกค้าในนิคมอุตสาหกรรมที่ปรับตัวดีขึ้นตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก และเศรษฐกิจภายในประเทศ หลังจากภาครัฐยกเลิกมาตรการ Test & Go ทำให้มีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้าประเทศช่วยผลักดันเศรษฐกิจขยายตัวดีขึ้น “ผลการดำเนินงานในไตรมาสแรกของปีนี้ ที่ทำรายได้และกำไรเติบโตแบบก้าวกระโดด สะท้อนถึงศักยภาพการดำเนินธุรกิจของ PIN ที่มีทำเลที่ตั้งโครงการนิคมอุตสาหกรรมอยู่ในจุดยุทธศาสตร์การลงทุนในเขตพื้นที่เศรษฐกิจ EEC ทำให้บริษัทฯ ผลักดันการเติบโตที่ดีเพื่อรับกับโอกาสเม็ดเงินลงทุนจากต่างประเทศเข้าลงทุนใช้ไทยเป็นฐานการผลิตเพื่อส่งออกเพิ่มมากขึ้น” คุณพีระ กล่าว ส่วนแผนดำเนินงานที่เหลือปีนี้ บริษัทฯ ยังคงมุ่งเน้นการขายที่ดินในนิคมอุตสาหกรรม โดยตั้งเป้าปีนี้ 350 ไร่ เพิ่มขึ้น 70% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา โดยชูจุดเด่นด้านทำเลที่ตั้งนิคมอุตสาหกรรม PIN 4 PIN 5 และ PIN 6 เพื่อรับโอกาสจากเม็ดเงินลงทุนจากต่างชาติ ซึ่งปัจจุบันมีนักลงทุนจากจีน ไต้หวันและเกาหลี ให้ความสนใจเข้ามาดูที่ดินในโครงการนิคมอุตสาหกรรมปิ่นทอง เพื่อใช้เป็นฐานการผลิตเพื่อส่งออกสินค้าไปยังต่างประเทศ นอกจากนี้ โครงการโลจิสติกส์ พาร์ค แห่งใหม่ ที่จัดสรรพื้นที่สร้างอาคารโรงงานและคลังสินค้าให้เช่า เป็นเขตปลอดอากร (Free Zone) กว่า 200,000 ตารางเมตร และ โครงการโรงไฟฟ้าแสงอาทิตย์บนพื้นที่หลังคาโรงงาน และ บ่อน้ำในนิคมอุตสาหกรรมปิ่นทอง ก็เป็นเป้าหมายของบริษัทฯ ที่จะช่วยเพิ่มโอกาสในกลุ่มรายได้ Recurring Income ของ PIN ให้มีความมั่นคงเพิ่มขึ้นในอนาคต